ประวัติบริษัท

air-conditioner_3

นโยบายและภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ

ภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัท

บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องปรับอากาศยานยนต์ทดแทน ให้แก่ลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ ประกอบไปด้วย 1. กลุ่มลูกค้าตลาดชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ทดแทน (Replacement Equipment Manufacturer หรือ “REM”) และ 2. กลุ่มลูกค้าผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ที่ผลิตให้กับ
แบรนด์รถยนต์ (Original Equipment Supplier หรือ “OES”) โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิตจำนวน 3 แห่ง คลังสินค้า 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาครทั้ง 4 แห่ง และ ศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2534 ด้วยทุนจดทะเบียน 10,000,000 ล้านบาท โดยเริ่มจากการผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ซึ่งได้แก่ ตัวกรองสิ่งสกปรกและความชื้น (Drier)  และ สายน้ำยาแอร์รถยนต์ ให้กับลูกค้าในประเทศ โดยบริษัทฯ ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ในตลาดชิ้นส่วนทดแทน บริษัทฯ จึงขยายกำลังการผลิตเพื่อผลิตแผงคอยล์ร้อน (Condenser) และแผงคอยล์เย็น(Evaporator) พร้อมกับขยายฐานลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

2534 2534
2536 2536
2538 2538
2540 2540
2541 2541
2546 2546
2547 2547
2548 2548
2550 2550
2553 2553
2555 2555
2556 2556
2557 2557
2558 2558
2559 2559
2562 2562
2563 2563

2534

จดทะเบียนธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด” ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ซอยเจริญนคร 46 ถนนเจริญนครกรุง แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ

2536

  • เปิดดำเนินการอาคารโรงงานขนาด 3,800 ตารางเมตร และอาคารสำนักงานขนาด 380 ตารางเมตร ณ ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร บนเนื้อที่ทั้งหมด 1,735 ตารางวา
  • ขยายกำลังการผลิตโดยการซื้อเครื่องจักรใหม่และนำเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศเยอรมันมา ใช้ในการผลิต เพื่อผลิตงานแผงควบแน่นสารทำความเย็น (Condenser Coil) และคอยล์ทำความเย็น (Evaporator Coil)
  • จดทะเบียนธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “บริษัท เพรสซิเด็นท์ เซลส์ จำกัด” โดยมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ 26/5 หมู่ที่ 9 ซอยวปอ. 11 (พิเศษ) ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

 

2538

  • ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ไปยัง 26/5 หมู่ที่ 9 ซอยวปอ. 11 (พิเศษ) ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบล สวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯ จาก 10 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาท

 

2540

ขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเริ่มจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา โดย บริษัทฯ ได้ลงทุนในการสร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาเอง จึงทำให้บริษัทฯ มีสินค้ามากกว่า 2,600 รุ่น ในปัจจุบัน

2541

เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 20 ล้านบาท เป็น 45 ล้านบาท

2546

เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 45 ล้านบาท เป็น 70 ล้านบาท

2547

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 70 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท และในปีเดียวกันบริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 100 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท
  • ขยายกำลังการผลิต โดยการสร้างอาคารโรงงานเพิ่มอีก 1 หลังด้วยขนาด 7,000 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 6,219 ตารางวา เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

 

2548

เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 120 ล้านบาท เป็น 220 ล้านบาท

2550

ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 9001:2008

 

2553

เพื่อรองรับกำลังการผลิตและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทางบริษัทได้เปิดอาคารโกดังขนาด 9,000 ตารางเมตรบนเนื้อที่กว่า 2,067 ตารางวา

 

2555

  • ขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในตลาดตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา
  • ขยายกำลังการผลิตและสายการผลิตเพิ่มมากขึ้น และการนำเทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรจากประเทศญี่ปุ่นนำมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

2556

เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 220 ล้านบาท เป็น 270 ล้านบาท

2557

  • เข้าควบรวมกิจการของบริษัท เพรสซิเด็นท์ เซลส์ จำกัด ให้อยู่ภายในการบริหารงานและการดำเนินการของบริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 270 ล้านบาท เป็น 370 ล้านบาท
  • ขยายสาขาเพื่อใช้เป็นสำนักงานขายในประเทศขนาด 380 ตารางเมตรและคลังสินค้าสำเร็จรูปขนาด 2,400 ตารางเมตรเพื่อกระจายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  • ได้รับรางวัล Bai Po Business Award by Sasin ครั้งที่ 10 จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เนื่องจากบริษัทฯ มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ และการมีคุณภาพสูง

 

2558

เปิดดำเนินการอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่ 88/8 หมู่ที่ 9 ซอย วปอ. 11 (พิเศษ) ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบัน

 

2559

  • ขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศอินเดีย และยุโรป โดยการออกงานแสดงสินค้า
  • ขยายกำลังการผลิต โดยการสร้างอาคารโรงงานเพิ่มอีก 1 หลังด้วยขนาด 5,000 ตารางเมตรและ อาคารสำนักงานขนาด 180 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 2,054 ตารางวา

 

2562

ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 9001:2015

 

2563

ดำเนิน PACO AUTOHUB เพื่อสร้างความรู้จักและความมั่นใจของบริษัทฯ ให้กับลูกค้า

 

2534

  • จดทะเบียนธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด” ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ซอยเจริญนคร 46 ถนนเจริญนครกรุง แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ

2536

  • เปิดดำเนินการอาคารโรงงานขนาด 3,800 ตารางเมตร และอาคารสำนักงานขนาด 380 ตารางเมตร ณ ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร บนเนื้อที่ทั้งหมด 1,735 ตารางวา
  • ขยายกำลังการผลิตโดยการซื้อเครื่องจักรใหม่และนำเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศเยอรมันมา ใช้ในการผลิต เพื่อผลิตงานแผงควบแน่นสารทำความเย็น (Condenser Coil) และคอยล์ทำความเย็น (Evaporator Coil)
  • จดทะเบียนธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “บริษัท เพรสซิเด็นท์ เซลส์ จำกัด” โดยมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ 26/5 หมู่ที่ 9 ซอยวปอ. 11 (พิเศษ) ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

2538

  • ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ไปยัง 26/5 หมู่ที่ 9 ซอยวปอ. 11 (พิเศษ) ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบล สวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯ จาก 10 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาท

2540

  • ขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเริ่มจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา โดย บริษัทฯ ได้ลงทุนในการสร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาเอง จึงทำให้บริษัทฯ มีสินค้ามากกว่า 2,600 รุ่น ในปัจจุบัน

2541

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 20 ล้านบาท เป็น 45 ล้านบาท

2546

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 45 ล้านบาท เป็น 70 ล้านบาท

2547

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 70 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท และในปีเดียวกันบริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 100 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท
  • ขยายกำลังการผลิต โดยการสร้างอาคารโรงงานเพิ่มอีก 1 หลังด้วยขนาด 7,000 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 6,219 ตารางวา เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

2548

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 120 ล้านบาท เป็น 220 ล้านบาท

2550

  • ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 9001:2008

2553

  • เพื่อรองรับกำลังการผลิตและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทางบริษัทได้เปิดอาคารโกดังขนาด 9,000 ตารางเมตรบนเนื้อที่กว่า 2,067 ตารางวา

2555

  • ขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในตลาดตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา
  • ขยายกำลังการผลิตและสายการผลิตเพิ่มมากขึ้น และการนำเทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรจากประเทศญี่ปุ่นนำมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

2556

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 220 ล้านบาท เป็น 270 ล้านบาท

2557

  • เข้าควบรวมกิจการของบริษัท เพรสซิเด็นท์ เซลส์ จำกัด ให้อยู่ภายในการบริหารงานและการดำเนินการของบริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จาก 270 ล้านบาท เป็น 370 ล้านบาท
  • ขยายสาขาเพื่อใช้เป็นสำนักงานขายในประเทศขนาด 380 ตารางเมตรและคลังสินค้าสำเร็จรูปขนาด 2,400 ตารางเมตรเพื่อกระจายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  • ได้รับรางวัล Bai Po Business Award by Sasin ครั้งที่ 10 จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เนื่องจากบริษัทฯ มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ และการมีคุณภาพสูง

2558

  • เปิดดำเนินการอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่ 88/8 หมู่ที่ 9 ซอย วปอ. 11 (พิเศษ) ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบัน

2559

  • ขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศอินเดีย และยุโรป โดยการออกงานแสดงสินค้า
  • ขยายกำลังการผลิต โดยการสร้างอาคารโรงงานเพิ่มอีก 1 หลังด้วยขนาด 5,000 ตารางเมตรและ อาคารสำนักงานขนาด 180 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 2,054 ตารางวา

2562

  • ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 9001:2015

2563

  • ดำเนิน PACO AUTO HUB เพื่อสร้างความรู้จักและความมั่นใจของบริษัทฯ ให้กับลูกค้า