
การกำกับดูแล กิจการ
คณะกรรมการของบริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้จัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจและการบริหารองค์กรเพื่อสร้างคุณค่าแก่กิจการอย่างยั่งยืน โดยมีหลักปฏิบัติในการกำกับดูแลกิจการที่ดี 8 ประการ ดังนี้
(1) คณะกรรมการเข้าใจบทบาทและตระหนักถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำที่ต้องกำกับดูแลให้องค์กร มีการบริหารจัดการที่ดี โดยบริษัทได้จัดให้มีกฏบัตรของคณะกรรมการซึ่งกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน ทั้งในการปฏิบัติหน้าที่และการกำกับดูแลกิจการของบริษัทให้เป็นไปตามกฏหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมคณะกรรมการและมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง ความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกรายรวมถึงมีหน้าที่ในการกำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ ทิศทางในการดำเนินธุรกิจ นโยบาย เป้าหมาย งบประมาณร่วมกับฝ่ายจัดการ และการกำกับดูแลติดตามประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายจัดการและรายงานผลการดำเนินงานดังกล่าว
(2) คณะกรรมการบริษัทได้จัดทำนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม นโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงจริยธรรมทางธุรกิจ เพื่อการประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรมเป็นประโยชน์ต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสามารถปรับตัวได้ภายใต้ปัจจัยการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้ติดประกาศยโยบายต่างๆ ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานไว้ที่บริษัท เพื่อให้ทราบ และนำไปปฏิบัติ รวมถึงสื่อสารให้เกิดความเข้าใจเพถื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีหน้าที่ในการทบทวนและแก้ไขนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์
(3) คณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่ดูแลให้กรรมการและผู้บริหารปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง (Duty of Care) และซื่อสัตย์สุจริตต่อองค์กร (Duty of Loyalty) รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมคณะกรรมการและมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยจัดให้มีระบบและกลไกอย่างเพียงพอที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามกฏหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมคณะกรรมการ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ตลอดจนนโยบายต่างๆ ของบริษัท เช่น มีคณะกรรมการตรวจสอบและฝ่่ายตรวจสอบภายในดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฏหมาย ข้อบังคับ และมติที่ประชุมที่เกี่ยวข้อง มีกลไกในรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการในกรณีที่มีการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นต้น รวมทั้งมีกระบวนการอนุมัติการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การลงทุน การทำธุรกรรมที่มีผลกระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ การทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และการจ่ายเงินปันผล เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายและนโยบายต่างๆ ของบริษัท เช่น นโยบายการลงทุนและบริหารงานของบริษัทในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม นโยบายการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน นโยบายเกี่ยวกับการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น
คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักขององค์กรในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และสอดคล้องกับการสร้างคุณค่าให้แก่กิจการ ลูกค้า ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และสังคมโดยรวม รวมทั้งมีการสื่อสารให้บุคคลากรในทุกระดับยึดถือเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ และเพื่อเป็นวัฒนธรรมขององค์กร
บริษัทมีนโยบายในการกำหนดโครงสร้างคณะกรรมการให้เหมาะสมสอดคล้องกับธุรกิจและขนาดของบริษัท และเป็นตามที่กฏหมายกำหนด ดังนี้
(1) คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยบุคคลที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ทั้งในด้านความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท โดยเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและภาพรวมขององค์กรตลอดจนมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
(2) คณะกรรมการบริษัทมีจำนวนอย่างน้อย 5 ท่าน แต่ไม่เกิน 12 ท่าน โดยคณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการอิสระอย่างน้อย 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการบริษัททั้งหมด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน อันจะทำให้เกิดการถ่วงดุลในการพิจารณาและออกเสียงในเรื่องต่างๆ อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ กรรมการอิสระของบริษัททุกท่านมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด และกฏหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจะทำหน้าที่ในการสรรหาบุคคลซึ่งมีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ที่เหมาะสมและสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจของบริษัท เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ และ/หรือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัท ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) แล้ว บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลของกรรมการ และกรรมการชุดย่อย อาทิ อายุ เพศ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ สัดส่วนการถือหุ้น จำนวนปีที่ดำรงตำแหน่ง จำนวนครั้งที่เข้าร่วมประชุม ค่าตอบแทนของคณะกรรมการบริษัท ทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน การดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนอื่น บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ และรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ และคณะกรรมการชุดย่อยในรายงานประจำปีของบริษัท และ/หรือบนเว็บไซต์ของบริษัท
(3) คณะกรรมการบริษัท มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละไม่เกิน 3 ปีตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยกรรมการอิสระจะมีวาระการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องไม่เกิน 9 ปี เว้นแต่มีเหตุผลและความจำเป็นตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร
(4) คณะกรรมการบริษัท กรรมการบริษัทและผู้บริหารของบริษัทสามารถเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทหรือผู้บริหารของบริษัทในเครือหรือบริษัทอื่นได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด และกฏหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กรรมการบริษัทแต่ละคนจะดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทจดทะเบียนได้ไม่เกิน 5 บริษัท เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อละจัดสรรเวลาอย่างเหมาะสม โดยจะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนการประชุมคณะกรรมการทั้งหมดที่จะจัดขึ้นในปีนั้นๆ
(5) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทจะไม่เป็นบุคคลเดียวกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในด้านความรับผิดชอบระหว่างการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลและการบริหารงานประจำ โดยบริษัทได้กำหนดอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบในการดำเนินงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหารไว้อย่างชัดเจน และกำหนดให้ประธานกรรมการบริษัทต้องเป็นกรรมการอิสระ
(6) คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทและการดำเนินงานของบริษัท อันได้แก่ คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน รวมทั้งได้กำหนดกฏบัตรของคณะกรรมการชุดย่อยแต่ละคณะเพื่อให้ทราบถึงอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการชุดย่อยไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งได้กำหนดให้มีการทบทวนกฏบัตรดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ ดังนี้
(6.1) คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวนอย่างน้อย 3 ท่าน เพื่อทำหน้าที่ช่วยสนับสนุนคณะกรรมการบริษัทในการบริหารจัดการกิจการของบริษัทให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน ข้อบังคับ และคำสั่งใด ๆ รวมทั้งเป้าหมายที่กำหนดไว้ ภายใต้กรอบที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยรายละเอียดขององค์ประกอบ คุณสมบัติ อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบปรากฏอยู่ในกฏบัตรของคณะกรรมการบริหาร
(6.1) คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วยกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ท่าน เพื่อทำหน้าที่ช่วยสนับสนุนคณะกรรมการบริษัทในการกำกับดูแลและตรวจสอบการบริหารงาน การควบคุมภายใน และการรปฏิบัติตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดทำรายงานทางการเงิน เพื่อให้การปฏิบัติงานและการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทเป็นไปอย่างโปร่งใสและน่าเชื่อถือ โดยรายละเอียดขององค์ประกอบ คุณสมบัติ อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบปรากฏอยู่ในกฏบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบ
(6.3) คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประกอบด้วย กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนอย่างน้อย 3 ท่าน เพื่อทำหน้าที่สรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท กรรมการชุดย่อย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท รวมทั้งพิจารณารูปแบบและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนของกรรมการบริษัท กรรมการชุดย่อยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทให้สะท้อนภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละบุุคคล และเสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ/หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป (แล้วแต่กรณี) โดยรายละเอียดขององค์ประกอบ คุณสมบัติ อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบปรากฏอยู่ในกฏบัตรของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดดค่าตอบแทน
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดให้มีเลขานุการบริษัท เพื่อทำหน้าที่ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการประชุมคณะกรรมการบริษัท และการประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งสนับสนุนงานของคณะกรรมการบริษัทโดยการให้คำแนะนำในเรื่องข้อกำหนดตามกฏหมายแลบะกฏระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท
(7) ในการกำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมนั้น บริษัทจะพิจารณาส่งตัวแทนของบริษัท ซึ่งมีคุณสมบัติและประสบการณ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจที่บริษัทเข้าลงทุน เข้าเป็นกรรมการในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมของบริษัท เพื่อกำกับดูแลการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวมถึงรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัททราบ ทั้งนี้ สัดส่วนตัวแทนของบริษัทที่เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม อย่างน้อยจะเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทและ/หรือตามที่ข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมแต่ละบริษัทกำหนด
(8) บริษัทได้กำหนดไว้ในกฏบัตรของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อย ให้คณะกรรมการแต่ละชุดมีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำปีของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อยโดยรวมและรายบุคคล รวมถึงกำหนดให้คณะกรรมการชุดย่อยรายงานผลการประเมินให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาเป็นประจำทุกปี
(1) คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนมีหน้าที่ในการกำหนดคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกำหนดรูปแบบและกระบวนการในการพัฒนาประธานเจ้าหน้าที่บริหารเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัทและสภาวการณ์ เช่น การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้ และการประเมินผลการปฏิบัติงาน รวมทั้งพิจารณารูปแบบและหลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าตอบแทนของประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่างเหมาะสม
(2) สำหรับผู้บริหารระดับสูงที่ดำรงตำแหน่งต่ำกว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดกฏระเบียบ หลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติ กำหนดรูปแบบ และกระบวนการในการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการว่าจ้าง แต่งตั้ง โยกย้าย ปลดออก เลิกจ้าง และการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว
(3) คณะกรรมการบริษัทกำหนดให้มีแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan) เพื่อเป็นการเตรียมสืบทอดตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
(4) คณะกรรมการบริษัทจะกำกับดูแลให้มีการบริหารและจะดูแลให้มีการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สอดคล้องกับทิศทางและกลยุทธ์ของกิจการ ส่งเสริมให้พนักงานเข้าร่วมอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรมเพื่อรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้
(5) บริษัทจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อให้พนักงานมีการออมอย่างเพียงพอสำหรับการเกษียณ รวมทั้งสนับสนุนให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการเงิน เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี และทำงานกับบริษัทได้ในระยะยาว
คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญและสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดมูลค่าแก่ธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณประโยชน์แก่ลูกค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และดูแลให้ฝ่ายจัดการจัดสรรและจัดการทรัพยากรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล โดยคำนึงถึงผลกระทบและการพัฒนาทรัพยากรเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักของกิจการได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทได้คำนึงถึงสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยมีหลักจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจซึ่งกรรมการบริษัท ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทจะต้องยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในฐานะตัวแทนของบริษัท ดังนี้
ผู้ถือหุ้น : บริษัทจะดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพื่อการสร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างผลการดำเนินงานที่ดี และการเจริญเติบโตที่มั่นคง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว รวมทั้งดำเนินการเปิดเผยข้อมูลด้วยความโปร่งใสและเชื่อถือได้ต่อผู้ถือหุ้น
พนักงาน : บริษัทจะปฏิบัติต่อพนักงานทุกรายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถและศักยภาพของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เช่น การจัดอบรม การสัมมนา และการฝึกอบรม โดยให้โอกาสอย่างทั่วถึงกับพนักงานทุกคน และพยายามสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่มีความรู้ความสามารถสูงให้คงอยู่กับบริษัทเพื่อพัฒนาองค์กรต่อไป อีกทั้งยังได้กำหนดแนวทางในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งปลูกฝังให้พนักงานทุกคนปฏิบัติงานตามกฏหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น การห้ามใช้ข้อมูลภายในอย่างเคร่งครัด เป็นต้น
คู่ค้า : บริษัทมีกระบวนการในการคัดเลือกคู่ค้าโดยการให้คู่ค้าแข่งขันบนข้อมูลที่เท่าเทียมกัน และคัดเลือกคู่ค้าของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดทำรูปแบบสัญญาที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่คู่สัญญาทุกฝ่าย และจัดให้มีระบบติดตามเพื่อให้มั่นใจว่าได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาอย่างครบถ้วน และป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดหา โดยบริษัทจะเข้าทำธุรกรรมกับคู่ค้าภายใต้เงื่อนไขทางการค้าโดยทั่วไป ตลอดจนปฏิบัติามสัญญาต่อคู่ค้าอย่างเคร่งครัด
ลูกค้า : บริษัทรับผิดชอบต่อลูกค้าโดยการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและบริการ รวมถึงการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ครบถ้วนและครอบคลุมให้มากที่สุด เพื่อมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทคำนึงถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ถูกต้องและครบถ้วนแก่ลูกค้า รวมทั้งยังจัดให้มีช่องทางให้ลูกค้าของบริษัท สามารถแจ้งปัญหาสินค้าและบริการที่ไม่เหมาะสมเพื่อที่บริษัทจะได้ป้องกัน และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนรักษาความลับของลูกค้า และไม่นำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยมิชอบ
เจ้าหนี้ : บริษัทจะปฏิบัติตามเงื่อนไขๆ ตามสัญญาที่มีต่อเจ้าหนี้เป็นสำคัญ รวมทั้งการชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยและการดูแลหลักประกันต่างๆ ภายใต้สัญญาที่เกี่ยวข้อง
คู่แข่ง : บริษัทประพฤติตามกรอบการแข่งขันที่ดี มีจรรยาบรรณและอยู่ในกรอบของกฏหมาย รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมนโยบายการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
ชุมชนและสิ่งแวดล้อม : บริษัทใส่ใจและให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท และส่งเสริมให้พนักงานของบริษัทมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งจัดให้มีการปฏิบัติตามกฏหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่เป็นการสร้างและรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและสังคมตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่บริษัทดำเนินกิจการอยู่
นอกจากนี้ ผู้มีส่วนได้เสียสามารถสอบถามรายละเอียด แจ้งข้อร้องเรียน หรือเบาะแสการกระทำผิดทางกฏหมาย ความไม่ถูกต้องของรายงานทางการเงิน ระบบควบคุมภายในที่บกพร่อง หรือการผิดจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของบริษัทข้างต้น ผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดได้ ทั้งนี้ ข้อมุลร้องเรียนและเบาะแสที่แจ้งมายังบริษัทจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ โดยบุคคลที่บริษัทกำหนดจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและหาแนวทางแก้ไข (หากมี) และ/หรือ พิจารณาเสนอเรื่องร้องเรียนที่สำคัญพร้อมความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะจัดให้มีกรอบการกำกับดูแลและบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศระดับองค์กรที่สอดคล้องกับความต้องการของบริษัท รวมทั้งดูแลให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและพัฒนาการดำเนินงาน การบริหารความเสี่ยง เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักขององค์กร
(1) เพื่อให้บริษัทมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายคณะกรรมการบริหารเพื่อช่วยคณะกรรมการบริษัทในการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท โดยคณะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง
(1.1) พิจารณาประเมินและทบทวนลักษณะความเสี่ยงที่บริษัทประสบอยู่หรือคาดว่าจะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อบริษัท (Identification of Risk) และกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของบริษัท (Risk Appetite)
(1.2) พิจารณากำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยงทั้งภายนอกและภายในบริษัทให้มีความครอบคุลมและสอดคล้องกับกลยุทธ์และทิศทางของธุรกิจ และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ต้องครอบคลุมความเสี่ยงอย่างน้อย 4 ประการ ดังนี้
(ก) ความเสี่ยงทางการเงิน (Financial Risk)
(ข) ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน (Operational Risk)
(ค) ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ (Strategic Risk)
(ง) ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฏระเบียบ (Compliance Risk)
(1.3) พิจารณากำหนดกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติในรการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยง ให้สามารถประเมิน ติดตามผล และกำกับดูแลระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
(1.4) พิจารณากำหนดงบประมาณและวิธีการตอบสนองต่อความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและอาจเกิดขึ้นกับบริษัทเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการปฏิบัติงานตามสถานการณ์ความเสี่ยงแต่ละประเภทเพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบ
(1.5) รายงานคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยง
(2) คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กฏหมายและกฏเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกำหนดเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในตรวจสอบ และ/หรือ พิจารณารายงานทางการเงิน ความเหมาะสมเพียงพอของระบบควบคุมภายใน การปฏิบัติตามกฏหมาย ความเป็นอิสระของหน่วยงานตรวจสอบภายใน การพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชี การเปิดเผยข้อมูลบริษัท
(3) นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบในการตรวจสอบดูแลความขัดแย้งทางผลประโยชน์ บริษัทยังกำหนดให้มีนโยบายการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการกรณีที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์เกิดขึ้น
(4) บริษัทยังจัดให้มีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ และนโยบายการใช้ข้อมูลภายในเพื่อป้องกันการใช้ประโยชน์อันมิควรในทรัพย์สิน ข้อมูลและโอการของบริษัท รวมถึงกำหนดนโยบายการทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันในลักษณะที่ไม่สมควร
(5) คณะกรรมการบริษัทกำหนด ให้มีนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่ชัดเจน โดยสื่อสารไปยังพนักงานทุกระดับขององค์กรและบุคคลภายนอกเพื่อให้เกิดการนำไปปฏิบัติได้จริง และคณะกรรมการบริษัทจะจัดให้มีโครงการหรือแนวทางต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมและปลูกฝังให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามกฏหมาย และระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดให้การรับเรื่องร้องเรียน และการดำเนินการกรณีที่มีการชี้เบาะแส และกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนไว้ในนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยจัดช่องทางการสื่อสารดที่หลากหลายเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้มีส่วนได้เสียสามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียนมายังบริษัทได้อย่างสะดวกและเหมาะสม และบริษัทมีการกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสหรือผู้ร้องเรียน พยาน และบุคคลที่ให้ข้อมูลในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน อันตรายใดๆ หรือความไม่ชอบธรรม อันเกิดมาจากการแจ้งเบาะแส การร้องเรียน การเป็นพยาน หรือการให้ข้อมูลแก่บริษัท
(6) กรรมการและผู้บริหารของบริษัทมีหน้าที่รายงานให้บริษัททราบถึงการมีส่วนได้เสียของตนหรือของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องซึ่งเป็นส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการกิจการของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดหน้าที่รายงานการมีส่วนได้เสียของกรรมการไว้ในกฏบัตรคณะกรรมการบริษัท โดยกำหนดให้กรรมการบริษัทแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้าในกรณีที่กรรมการบริษัทรายใดมีส่วนได้เสียในธุรกรรมใดที่ทำกับบริษัท
(1) คณะกรรมการบริษัทจะดำเนินการให้มีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญ อย่างถูกต้อง เพียงพอ ทันเวลา และเป็นไปตามกฏหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อมูลของบริษัท ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลทั่วไป
(2) คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำรายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) และรายงานทางการเงินของบริษัท โดยจัดทำตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป และใช้ดุลยพินิจอย่างระวัดระวังในการจัดทำ รวมทั้งกำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญอย่างเพียงพอในหมายเหตุประกอบงบการเงิน โดยคณะกรรมการตรวจสอบเป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับคุณภาพของรายงานทางการเงิน และเป็นผู้ให้ความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัท
(3) คณะกรรมการบริษัทได้ความสำคัญเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท โดยกำหนดให้ฝ่ายจัดการมีการติดตามและประเมินฐานะทางการเงิน และสภาพคล่องของกิจการเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และรายงานให้คณะกรรมการบริษัทรับทราบเป็นประจำทุกไตรมาส
(4) ภายหลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทจะทำการเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศของบริษัทต่อผู้ถือหุ้นและสาธารณชนผ่านช่องทางและสื่อสารการเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ และเว็บไซต์ของบริษัท และจัดให้มีผู้รับผิดชอบเพื่อทำหน้าที่ติดต่อและให้ข้อมูลกับผู้ถือหุ้น นักลงทุน นักวิเคราะห์ หลักทรัพย์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคคลใด ๆ
(5) คณะกรรมการบริษัทส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งนอกเหนือจากการเผยแพร่ข้อมูลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว คณะกรรมการบริษัทจะจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษผ่านช่องทางอื่นด้วย เช่น เว็บไซต์ของบริษัท พร้อมทั้งนำเสนอข้อมุลที่เป็นปัจจุบัน
คณะกรรมการบริษัทตระหนักและให้ความสำคัญในสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ของผู้ถือหุ้น ทั้งในฐานะของนักลงทุนในหลักทรัพย์และเจ้าของบริษัท เช่น สิทธิในการซื้อ ขาย โอน หลักทรัพย์ที่ตนถืออยู่ สิทธิในการที่จะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากบริษัท สิทธิในการได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอ สิทธิในการเข้าร่วมประชุม เพื่อใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี การอนุมัติธุรกรรมที่สำคัญและมีผลต่อทิศทางในการดำเนินธุรกิจขอิงบริษัท และเรื่องที่มีผลกระทบต่อบริษัท เช่น การจัดสรรเงินปันผล การกำหนดหรือการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ และข้อบังคับบริษัท การลดทุนหรือเพิ่มทุน และการอนุมัติรายการพิเศษ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทมีพันธกิจในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น ดังนี้
(1) มีการให้ข้อมูลวัน เวลา สถานที่ และวาระการประชุม โดยมีคำชี้แจงและเหตุผลประกอบในแต่ละวาระหรือประกอบมติที่ขอตามที่ระบุไว้ในหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น หรือในเอกสารแนบวาระการประชุมอย่างครบถ้วนเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น และละเว้นการกระทำใด ๆ ที่เป็นการจำกัดโอกาสของผู้ถือหุ้นในการศึกษาสารสนเทศของบริษัท
(2) อำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหุ้นทุกกลุ่มได้ใช้สิทธิในการเข้าร่วมและออกเสียงอย่างเต็มทีและละเว้นการกระทำใด ๆ ที่เป็นการจำกัดโอกาสในการเข้าประชุมของผู้ถือหุ้น เช่น ใช้สถานที่ซึ่งสะดวกแก่การเดินทาง โดยจะแนบแผนที่ซึ่งแสดงสถานที่จัดการประชุมผู้ถือหุ้น รวมถึงเลือกวันเวลาที่เหมาะสม และจัดสรรเวลาในการประชุมอย่างเพียงพอ รวมทั้งการเข้าประชุมเพื่อออกเสียงลงมติไม่ควรมีวิธีที่ยุ่งยากหรือมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป
(3) ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นสามารถส่งความเห็น ข้อเสนอแนะ หรือช้อซักถามได้ล่วงหน้าก่อนวันประชุม โดยกำหนดหลักเกณฑ์การส่งคำถามล่วงหน้าให้ชัดเจน และแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบพร้อมกับการนำส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น และบริษัทจะเผยแพร่หลักเกณฑ์ดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
(4) สนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นใช้หนังสือมอบฉันทะรูปแบบที่ผู้ถือหุ้นสามารถกำหนดทิศทางการลงคะแนนเสียงได้ และเสนอชื่อกรรมการอิสระอย่างน้อย 1 คน เป็นทางเลือกในการมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น

รองศาสตราจารย์ กัลยาภรณ์ ปานมะเริง

นายกณวรรธน์ อรัญ

นางสาวปวีณา ปุลิเวคินทร์

ผศ.ดร. สัญญพงศ์ เพชรร่มโพธิ์

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ

นายสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติ

นางมาลีวัลย์ เลิศขจรกิตติ

นายธเนศ เลิศขจรกิตติ

นางสาวพิชญ์ชนก เลิศขจรกิตติ

นายกิตติศักดิ์ เลิศขจรกิตติ

นางสาวจารุวรรณ ทองมั่น

นายอนุชา แซ่ลิ้ม

รองศาสตราจารย์ กัลยาภรณ์ ปานมะเริง
ตำเเหน่ง :
กรรมการอิสระ/ ประธานกรรมการบริษัท/ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
23 ตุลาคม 2556
อายุ : 72 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการและผู้บริหาร :
ไม่มี
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาโท พัฒนศาสตร์ (บริหารธุรกิจ) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
- ปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Certificate Visiting Colleague program, University of Hawaii at Manao, USA
- หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้บริหารมหาวิทยาลัยระดับสูง (รุ่นที่ 8) ทบวงมหาวิทยาลัย
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 28/2004,สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย (IOD)
- หลักสูตร Audit Committee Program (ACP) รุ่น 13/2006,
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2556 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ / ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
- ปี 2563 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ / ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท วาย เอส เอส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ผลิตและจัดจำหน่าย โช๊ครถจักรยานยนต์และรถยนต์)
- ปี 2552 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ / ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) (ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยางให้แก่โรงรีดเหล็กทั้งในและต่างประเทศ)
- ปี 2558 – 2556 : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) (ให้บริการระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
- รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม
- ผู้ตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
- ผู้ตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
- คณะกรรมการฝ่ายการเงินและเหรัญญิก สโมสรเอธานอลไบโอดีเซลแห่งประเทศไทย
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ไม่มี

นายกณวรรธน์ อรัญ
ตำเเหน่ง :
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ / กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
23 ตุลาคม 2556
อายุ : 57 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการและผู้บริหาร :
ไม่มี
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาโท นิติศาสตร์ สาขากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ปริญญาโท บริหารธุรกิจ สาขาบริหารองค์การและการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
- ปริญญาตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 78/2009 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- ประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ประกาศนียบัตรทางบัญชีและภาษีอากรชั้นสูง ศาลภาษีอากรกลาง
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2558 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) (ให้บริการระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร)
- ปี 2556 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ / กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
- ปี 2552 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ / กรรมการบริหาร ความเสี่ยง / กรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) (ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยางให้แก่โรงรีดเหล็กทั้งในและต่างประเทศ)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
- รองเลขาธิการ สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ไม่มี

นางสาวปวีณา ปุลิเวคินทร์
ตำเเหน่ง :
กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
วันที่ดำรงตำแหน่ง : 5 สิงหาคม 2567
อายุ : 35 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการกับผู้บริหาร : ไม่มี
คุณวุฒิทางการศึกษา :
- ปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต (ระบบสารสนเทศทางการบัญชี), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (ภาษาอังกฤษ), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 222/2024
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน : ไม่มี
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2560 – ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง Finance Advisor บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด
- ปี 2554 – ปี 2559 ดำรงตำแหน่ง Manager บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส์ เอบีเอเอส จำกัด
- ปี 2553 ฝึกงานทางด้านบัญชีและการตรวจสอบ บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น : ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ไม่มี

ผศ.ดร. สัญญพงศ์ เพชรร่มโพธิ์
ตำเเหน่ง :
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
22 เมษายน 2568
อายุ : 34 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการและผู้บริหาร : ไม่มี
คุณวุฒิทางการศึกษา :
- PhD in Engineering (Manufacturing and Management), University of Cambridge
- MSc in Operational Research, London School of Economics and Political Science
- MSc in Management, University College London
- วศ.บ. วิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 230/2025 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน : ไม่มี
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน : ไม่มี
การดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นในปัจจุบัน :
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 : ร้อยละ 0.062 (จำนวน 620,000 หุ้น )

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริษัท / กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
30 กันยายน 2534
อายุ : 63 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการและผู้บริหาร :
นางมาลีวัลย์ เลิศขจรกิตติ (คู่สมรส)
นายสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติ (พี่ชาย)
นายธเนศ เลิศขจรกิตติ (บุตรชาย)
นางสาวพิชญ์ชนก เลิศขจรกิตติ (บุตรสาว)
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 107/2014 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- หลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงด้านองค์ความรู้และความร่วมมือทางธุรกิจจีน (Top Executive Program on China Business Insight and Network : TEPCIAN) รุ่นที่ 2
- หลักสูตร นักลงทุน CSI (Investment Institute) รุ่นที่ 21
- หลักสูตร ผู้บริหารระดับสูงความร่วมมือญี่ปุ่น-ไทย
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2534 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท / กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2554 – 2562 : ดำรงตำแหน่ง กรรมการ / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม สแตนดาร์ด แมนูแฟคจิ่ง จำกัด (ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ประเภทยาง)
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
- ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 19.75 (จำนวน 197,533,400 หุ้น)

นายสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติ
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร / รองประธานฝ่ายผลิต
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
30 กันยายน 2534
อายุ : 64 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการกับผู้บริหาร :
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ (น้องชาย)
นายกิตติศักดิ์ เลิศขจรกิตติ (บุตรชาย)
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 107/2014 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- หลักสูตรอบรมโครงการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรม (MDP 3) รุ่นที่ 3
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2534 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร / รองประธานฝ่ายผลิต บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 9.04 (จำนวน 90,432,000 หุ้น)

นางมาลีวัลย์ เลิศขจรกิตติ
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริษัท, รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
30 กันยายน 2534
อายุ : 63 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการและผู้บริหาร :
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ (คู่สมรส)
นายธเนศ เลิศขจรกิตติ (บุตรชาย)
นางสาวพิชญ์ชนก เลิศขจรกิตติ (บุตรสาว)
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 107/2014 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- หลักสูตร Orientation Course: CFO Focus on Financial Reporting Class 1/2018 (CFO 0243)
- หลักสูตร อัปเดตกฏหมายใหม่ ผลต่อการคำนวณกำไรสุทธิ จัดโดยสรรพากรสาสน์
- หลักสูตร อัปเดตมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 15 และประเด็นสำคัญทางภาษีอากรและกฏหมายคุ้มครองแรงงานที่กระทบต่อการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน
- หลักสูตร 5 Step New TRFS 15 : ผลกระทบทางบัญชี-ภาษี
- หลักสูตร เจาะลึก NPAEs ด้านรายได้และสินทรัพย์พร้อมรับเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
- หลักสูตร รายได้ ความแตกต่างระหว่างบัญชีและภาษี
- หลักสูตร Advance Transfer Pricing และมาตรฐานบัญชี 2566
- หลักสูตร เจาะลึก TRFS for NPAEs การบัญชีและภาษีอากรด้านรายจ่าย
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2534 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท / รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตขิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2554 – 2562 : ดำรงตำแหน่ง กรรมการ บริษัท ไพร์ม สแตนดาร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ประเภทยาง)
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
- ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 6.00 (จำนวน 59,965,800 หุ้น)

นายธเนศ เลิศขจรกิตติ
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
23 ตุลาคม 2556
อายุ : 36 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการกับผู้บริหาร :
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ (บิดา)
นางมาลีวัลย์ เลิศขจรกิตติ (มารดา)
นางสาวพิชญ์ชนก เลิศขจรกิตติ (น้องสาว)
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาโท, บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการเงิน และ การจัดการและกลยุทธ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาโท, วิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาตรี, Bachelor of Science สาขา Aeronautics and Astronautics engineering, Purdue University, USA
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 108/2014 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- หลักสูตร IR In Action,สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2562 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2561 – 2562 : ดำรงตำแหน่ง ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ดีพสปาร์ค จำกัด (วางระบบพัฒนาซอฟต์แวร์)
- ปี 2560 – 2561 : ดำรงตำแหน่ง ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีทูพี จำกัด (ประกอบธุรกิจบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์)
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 7.14 (จำนวน 71,363,000 หุ้น)

นางสาวพิชญ์ชนก เลิศขจรกิตติ
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร
วันที่ดำรงตำแหน่ง :
1 สิงหาคม 2563
อายุ : 33 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการกับผู้บริหาร :
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ (บิดา)
นางมาลีวัลย์ เลิศขจรกิตติ (มารดา)
นายธเนศ เลิศขจรกิตติ (พี่ชาย)
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาโท, บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการตลาด สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาโท, Master of Science สาขา Innovation, Entrepreneurship and Management Imperial College London, UK
- ปริญญาตรี, Bachelor of Science สาขา Electrical and Computer Engineering, Purdue University, West Lafayette, USA
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 173/2020
- หลักสูตร Company Secretary Program (CSP) รุ่น 11/2021
- หลักสูตร “สรุปสาระสำคัญ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เพื่อการบริหารงานบุคคล” จัดโดยสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าไทย
- หลักสูตร การเตรียมความพร้อมทางบัญชีและการเงิน (Orientation Course) จากศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรุู้ตลาดทุน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- หลักสูตร ISO 45001:2018 เทคนิคการตรวจติดตามภายใน
- หลักสูตร จป.บริหาร
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2563 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท เพรสซิเดนท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2557 – 2561 : ดำรงตำแหน่ง Business and Technology Consultant บริษัท เอคเซนเซอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด (ที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ)
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
- ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 7.01 (จำนวน 70,056,000 หุ้น)

นายกิตติศักดิ์ เลิศขจรกิตติ
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต
วันที่ดำรงตำแหน่ง :
1 สิงหาคม 2563
อายุ : 32 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการและผู้บริหาร :
นายสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติ (บิดา)
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาโท, วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต วิทยาศาสตร์การจัดการซัพพลายเชนและโลจิสติกส์, University of Warwick, UK
- ปริญญาโท, วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต วิศวกรรมการจัดการธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาตรี, วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกล, University of Nottingham, UK
- ปริญญาตรี, วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 174/2020 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- หลักสูตร “แนวโน้ม ทิศทางการทำ M&A ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา และกลยุทธ์การทำ M&A ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “
- หลักสูตร ผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน ผอส.ภาคทฤษฎี
- หลักสูตร ผู้รับผิดชอบด้านพลังงานอาสุโส (ผอส) สาขาไฟฟ้า ภาคทฤษฎี
- หลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่นที่ 18
- หลักสูตร จป.บริหาร
- หลักสูตรคณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ.)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2563 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2562 – 2563 : ดำรงตำแหน่ง วิศวกรอาวุโส บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผลิตนำเข้า และจำหน่ายรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
- ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 6.23 (จำนวน 62,256,000 หุ้น)

นางสาวจารุวรรณ ทองมั่น
ตำเเหน่ง :
กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี (ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบโดยตรงในการควบคุมดูแลการทำบัญชีของบริษัท)
วันที่ดำรงตำเเหน่ง :
1 สิงหาคม 2562
อายุ : 46 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการกับผู้บริหาร :
ไม่มี
คุณวุฒิการศึกษา :
- ปริญญาโท บัญชีมหาบัณฑิต สาขา การบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม
- ปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์
ประวัติการฝึกอบรม :
- หลักสูตรอัปเดตกฎหมายใหม่ ผลต่อการคำนวณกำไรสุทธิ จัดโดยสรรพากรสาสน์
- หลักสูตรอัปเดตมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 15 และประเด็นสำคัญทางภาษีอากร และกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่กระทบต่อการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน
- หลักสูตร 5 Step New TRFS 15 : ผลกระทบทางบัญชี-ภาษี
- หลักสูตร เจาะลึก NPAEs ด้านรายได้และสินทรัพย์พร้อมรับเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
- หลักสูตร รายได้ ความแตกต่างระหว่างบัญชีและภาษี
- หลักสูตร Advance Transfer Pricing และมาตรฐานบัญชี 2566
- หลักสูตร เจาะลึก TRFS for NPAEs การบัญชีและภาษีอากรด้านรายจ่าย
- หลักสูตร จป. บริหาร
- หลักสูตร คณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ.)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2563 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2562 – 2562 : ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบัญชี บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด(ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
- ปี 2545 – 2561 : ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายบัญชี บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด(ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :
ไม่มีการดำรงตำแหน่ง
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ร้อยละ 0.002 (จำนวน 20,000 หุ้น)

นายอนุชา แซ่ลิ้ม
ตำเเหน่ง : กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน
วันที่ดำรงตำแหน่ง : 1 สิงหาคม 2563
อายุ : 34 ปี
ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างกรรมการกับผู้บริหาร : ไม่มี
คุณวุฒิทางการศึกษา : ปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประวัติการฝึกอบรม :
- ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต : Certified Public Accountant (CPA)
- หลักสูตร Advance Transfer Pricing และมาตรฐานบัญชี 2566
- หลักสูตร เจาะลึก TFRS for NPAEs การบัญชีและภาษีอากรด้านรายจ่าย
- หลักสูตร จป.บริหาร
- หลักสูตร คณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ.)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2562 – ปัจจุบัน : ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์)
ประสบการณ์การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน :
- ปี 2556 – 2562 : ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการแผนกตรวจสอบบัญชี บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด (สำนักงานบัญชี)
การดำรงตำแหน่งในหน่วยงานอื่น :ไม่มี
สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 : ไม่มี